สุดฟิน !! กรุงเทพ-ชะอำ 2วัน1คืน กับงบไม่ถึง500บาท
สวัสดีคับ เพื่อนๆ ผมจะมาเล่าประสบการณ์การเดินทางของผม ในทริปนี้กันนะครับ
กรุงเทพ-ชะอำ ทะเลที่ใกล้กรุงเทพมากๆแล้วก็มา ง่ายมากๆ
ง่ายขนาดไหน…. คือแค่คิดอยากมา ก็สามารถมาได้เลย โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีรถส่วนตัว
วันที่เดินทาง 16 มิ.ย. 2561
ผมเลือกเดินทางแบบ2วัน1คืน แต่แค่2วัน1คืนนี่ก็สุดมันส์แล้ว
ความจริงผมต้องการไปพักผ่อน นอนริมทะเลชิวๆ เล่นน้ำทะเล รับลมอะไรประมาณนี้
พูดมาซะนานละ เริ่มกันเรยดีกว่า โดยผมเริ่มต้นให้เพื่อนๆที่อนุสาวรีย์ละกันนะครับ
เริ่มต้น….. อนุสาวรีย์ > หัวลำโพง > ชะอำ
– โดยเราจะขึ้นรถเมล์สาย 29หรือ34 ไปลงสุดสายที่หัวลำโพง ในราคา 6.5บาท
– จากนั้นเราซื้อตั๋วรถไฟ ไปชะอำในรอบ 9.20 ในราคา 40 บาท เป็นรถสาย กรุงเทพ-หัวหิน
แค่นี้ก็ถึงชะอำแล้ว เย้ๆ ในราคาไม่ถึง 50 บาทเอง!!
จากหัวลำโพง ใช้เวลาประมาณ4ชั่วโมง ก็จะถึงสถานีชะอำ
ทีนี้จากสถานีชะอำ ไปหาดชะอำระยะทาง ประมาณ3 กม. ถ้าเดินไหวแดดไม่ร้อน มันก็ชิวดีนะ
แต่ถ้าเดินไม่ไหว อยากจะใช้บริการรถสาธารณะ ก็จะมีพี่วิน ตอนผมไป ผมไป2คนเค้าคิดผมคนละ40บาท
แต่ผมบอกว่าแพงไป เค้าเลยบอกว่าคนละ 30 บาท ผมก็ยังลังเลอีก คือ ผมมีราคาในใจที่รับได้อยู่แล้วไง
จนพี่เค้าบอก 2 คน 50 บาท ผมเลยตกลง !!! ไปเลยลุง let’s go
ถ้าใครไม่อยากนั่งพี่วิน ก็มีเป็นเหมือนรถเหมา เค้าคิดเป็นรายหัว หัวละ40บาท ถ้ามากันเยอะๆ ก็ลองต่อลองราคาเค้าดูได้นะ พี่ที่นี่เขาใจดี
ผมให้ลุงไปส่งที่โรงแรม เพื่อเชคอิน โรงแรมที่ผมไปพักบอกเลยยว่าดีงามมาก ผมเขียนรีวิวโรงแรมไว้แล้ว
ให้คลิกเข้าไปที่ลิ้งค์นี้ได้เลย https://th.readme.me/p/17601
หลังจากเชคอินเสร็จ เราก็ลงมาหาอะไรกินกันด้านล่างหน้าหาด อาหารหน้าหาดที่นี่ถูกมาก 35-40 ราคาทั่วไปเลย เนื่องจากที่พักเราโคตรดี เราก็เลยตั้งใจว่าคืนนี้จะปิ้งย่างก็เลยหาของสดเพื่อขึ้นไปปิ้ง และจิบเครื่องดื่มเบาๆ ให้ฟินกับบรรยากาศ แถวนั้นมีโลตัสเอ็กเพรส ตอนผมไป โชคดีที่เจอเนื้อหมูลดราคาพอดี เรยหยิบมา3กล่อง กล่องละ29บาท
จากนั้นก็ไปเดินเล่นริมชายหาดชะอำ เจอแมงกระพรุนด้วยยย ผมก็พยายามช่วยชีวิตมันโดยเอาไม้เขี่ยๆลงทะเล แต่ไม่เป็นผล คลื่นซัดกลับเข้าฝั่ง ผ่านไปเกือบ10นาที ยังเอาลงทะเลไม่ได้ ก็ทิ้งไว้นั่นแหละ แกนี่ไม่ช่วยเหลือตัวเองเลยนะ แกต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเองสิ แหนะ! ทะเลาะกับแมงกระพรุนเฉยเลย 555
อากาศก็โคตรดี นั่งไปเพลินๆ ฮะ!! จะ6โมงเย็นแล้วหรือเนี่ย ทำไมเวลามันเดินเร็วจัง รีบเดินกลับไปที่โรงแรม
เพื่อที่จะดูพระอาทิตย์ตกดิน แต่วันนี้เมฆเยอะไปหน่อย บังมิดเลยนะ แหม่
ไม่เป็นไร รีบอาบน้ำให้ตัวหอมกรุ่น แล้วมาปิ้งบาร์บีคิว พร้อมจิบๆกันหน่อย 5555
วันนี้ที่โรงแรมเค้าจัดเลี้ยงวันเกิดพนักงาน ผมเรยตกกะไดพลอยโจร เนียนๆไปร่วมแจมกะเค้าด้วย
รู้จักไม่รู้จักไม่รู้ แต่ตอนนี้บนโต๊ะผม มีทั้งเค๊กและอาหารเรียบร้อยละ 555 เสร็จโจร !!
เวลาก็เริ่มเดินไปๆ พนักงานที่นี่บางคนก็เริ่มไปนอน เหลือแค่ผมกับพนักงานอีก2-3คน
ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย จนมันมีจุดพีคจร้าาา ซึ่งเราก็เจือกมาเป็น 1 ในจุดพีคนี้ด้วย 555
อยากลงรายละเอียดนะ แต่ไม่ดีกว่า ข้ามๆๆ จนประมาณ ตี2ครึ่ง พนักงานที่นี่ก็ชวนผมออกไปดู วัวลาน เมืองเพชร โอ้โห มาถึงถิ่นแบบนี้แล้ว ก็ต้องไปสิค๊าบบบรออะไร ซ้อนมอไซค์พนักงานออกไปเลยย555
พอไปเห็นกับตา ตื่นตาตื่นใจมากๆ เมาก็เมา 555 แต่พอดูไปจนรอบสุดท้าย วัวเกิดล้ม แล้วโดนลากไปเรื่อยๆ มันทำให้เราเศร้านะ แต่ไม่ขอพูดอะไรละกันนะครับ แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน
ผมเองก็ยอมรับว่ารู้สึกสงสารในระดับนึง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นกีฬาก็เถอะ จากนั้นผมก็กลับมาที่ห้องแล้วก็หลับเป็นตาย ตื่นมาอีกทีเกือบ10โมง ตายห่าละ อาหารเช้า ตรู…. ต้องรีบวิ่งออกไปบอกว่า อย่าเพิ่งเก็บบบ
ตรูยังไม่ได้กิน หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ก็อาบน้ำเก็บของ แล้วก็เชคเอาท์ ตอนเที่ยง เพื่อจะไปขึ้นรถไฟในรอบ 14.30 กลับ กทม. ขากลับด้วยความที่เวลาเหลือเยอะ เราเลยเลือกที่จะเดินไปสถานีรถไฟ 3.5 กม.
ก็ไม่ไกลนะ เดินเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะผมวิ่งบ่อย เลยทำให้รู้สึกว่าระยะทางไม่เกิน5 กม. เราเดินไหว
เราก็ได้สัมผัส 2ข้างทางไปด้วย ว่าที่นี่เขามีอะไรบ้าง ประมาณ1ชั่วโมง ก็มาถึงสถานี ซื้อตั๋วกลับ กทม อีก 40 บาท กำหนดการจะถึง กทม. 19.00 ซึ่งบอกเลยว่าเรทเพียงแค่5นาทีเท่านั้น มาถึง หัวลำโพง 19.05
หลังจากนั้นไปรอรถสาย 29 กลับ อนุสาวรีย์เช่นเดิม เป็นอันจบทริปฉบับสมลูรณ์
สรุปค่าใช้จ่าย
– ค่ารถไฟไป-กลับ 80บาท
– ค่าวิน 25 บาท
– ค่าโรงแรม 1 คืน/1คน/ 235บาท (มีอาหารเช้า)
– ค่ารถเมล์ สาย 29 ไป-กลับ 13บาท
– ค่าข้าว 40บาท
– ค่าน้ำ 20 บาท
– ค่า บาร์บีคิว 87 หาร2 = 43.5บาท
*ค่าเครื่องดื่มจิบๆ ไม่คิดรวมเนาะ 5555 ^^
รวมค่าใช้จ่าย ทั้งหมด 2 วัน 1 คืน 456.5 บาท
ไม่ถึง500 ก็ฟินได้เนาะๆ อย่าลืมเข้าไปดูรีวิวโรงแรมกันนะ มันดีงามมาก
ฝากติดตามเพจ และบล็อกของผมด้วยนะครับ มีเรื่องสนุกๆเล่าไว้เพียบเลยยยยย ฉันอยากเหล้า ไม่ใช่ๆ
“ฉันอยากเล่า”
Facebook: Onelife1992
Instagram: one_life_thailand
Blogspot: art-one-life
กดไลค์ กดติดตามเป็นกำลังใจให้กันหน่อยน้าาา